"ผมไม่อยากให้ AI ทำลายจิตวิญญานของศิลปินที่สร้างผลงานเอง" คุยแบบร็อก ๆ เปิดตัวตน "Smash Into Pieces"

บันเทิง
"ผมไม่อยากให้ AI ทำลายจิตวิญญานของศิลปินที่สร้างผลงานเอง"  คุยแบบร็อก ๆ เปิดตัวตน "Smash Into Pieces"

Smash Into Pieces วงร็อกจากประเทศสวีเดน เจ้าของเพลงไวรัลในประเทศไทย “Heroes Are Calling” เพิ่งจะระเบิดพลังชาวร็อกกันแบบสุดเหวี่ยง! กับคอนเสิร์ตครั้งแรกในประเทศไทย

“Smash Into Pieces Arma-Heaven Prophecy Live in Bangkok”  วันที่ 20 สิงหาคม 2568 ที่สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ งานนี้ก่อนทำการแสดง TTM VARIETY ได้มีโอกาสสัมภาษณ์เอ็กซ์คลูซีฟพูดคุยอย่างเป็นกันเอง บอกเลยว่าสมาชิกวง Smash Into Pieces สร้างความประทับใจให้กับเราเป็นอย่างมากกับความเป็นกันเอง น่ารัก ตั้งใจตอบคำถามของเราทุกข้อ เราจะพูดคุยเรื่องอะไรกันบ้าง ไปอ่านกัน

TTM : พวกคุณเคยมาประเทศไทยกันมั้ย พอได้มาแล้วชอบอะไรกันบ้าง? 
Smash Into Pieces : เป็นครั้งแรกของทุกคนครับ จริง ๆ อยากพาครอบครัวมาพักผ่อนแต่ยังไม่ได้มาสักที พอได้มาความประทับใจแรกของประเทศไทยก็คือเป็นเรื่องของสถาปัตยกรรมสถานที่ได้เข้าถึงความวัฒนธรรม และพวกวัดที่ได้ไปมา อีกหนึ่งสิ่งคือชอบอาหารไทยมาก คริสได้ลองทานผัดไทยที่นี่ซึ่งเป็นเมนูโปรดเลยครับ
 
TTM : นี่เป็นครั้งแรกที่มาเล่นคอนเสิร์ตในประเทศไทยรู้สึกอย่างไรบ้าง ?
Smash Into Pieces : รู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้มาที่นี่ครับ เพราะว่าก่อนหน้านี้หลังจากที่ได้มีการพูดคุยกันว่าจะมาโชว์ที่ไทยก็คือคาดหวังไว้ว่าไม่ได้เป็นโชว์ในสถานที่ที่ใหญ่มาก แต่ว่าอยากให้เป็นโชว์ที่ได้เข้าถึงแฟน ๆ อยากให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมกับโชว์
 
 
TTM : พวกคุณได้ไปเล่นคอนเสิร์ตในต่างประเทศมากมายช่วยเล่าประสบการณ์ประทับใจให้เราฟังหน่อย
Smash Into Pieces : เราไปทัวร์กันเยอะมากตั้งแต่สมัยเราขับรถตู้เอง นอนหลังรถไปด้วยกัน มีเหตุการณ์มากมาย แต่ทุกวันนี้บางครั้งเราไปในสถานที่ที่ไม่ได้ใหญ่มาก แต่แฟน ๆ ให้ฟีดแบ็กการตอบรับที่ดีมากมันเลยเป็นความรู้สึกเซอร์ไพรส์ ทำให้เราได้เต็มที่กับโชว์ และสนุกจริงๆ  
 
TTM : อยากรู้ว่ามีวิธีเตรียมตัวก่อนขึ้นเวทีสำคัญ ๆ ตามประสาชาวร็อก
Smash Into Pieces : ไม่ได้มีการเตรียมตัวจริงจังขนาดนั้น เพราะเราทัวร์กันมาตลอด 20 ปี ทัวร์กันมาแทบทุกอาทิตย์อยู่แล้ว ทำสิ่งนี้กันเป็นเรื่องปกติ แต่เราจะเตรียมความพร้อมในแง่ของ Technical มากกว่าว่าพร้อมมั้ย เราอยากให้โชว์ออกมาดีที่สุด
 
 
TTM : เพลงที่ปล่อยเมื่อปีที่แล้วอย่าง Heroes Are Calling เป็นไวรัลในไทย รู้สึกอย่างไรบ้าง?
Smash Into Pieces :  รู้สึกดีใจแล้วก็เซอร์ไพรส์มากครับ "Heroes Are Calling" เป็นไวรัลเพราะเหตุการณ์แผ่นดินไหว คนไทยนำไปใช้ประกอบคลิปช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในไทย เรารู้สึกเป็นเกียรติมาก เราสร้างผลงานศิลปะออกมา เขียนเพลงออกมาโดยที่ไม่คิดว่าจะไปทัชใจใครได้บ้างแต่เพลงนี้ก็ทัชใจคนไทย นี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เรามาเล่นคอนเสิร์ตที่กรุงเทพครับ
 
TTM : หากให้เลือกหนึ่งเพลงของวงที่ “นิยามตัวตนของ Smash Into Pieces” ได้ชัดที่สุด จะเลือกเพลงไหน และเพราะอะไร? 
Smash Into Pieces : เบนจามิน เลือกเพลง "Six Feet Under" / คริส และเพอร์ เลือกเพลง "Let Me Be Your Superhero" เพราะด้วยบีตและซาวด์ที่เขียนออกมามันแสดงให้เห็นความเป็นดนตรี Smash Into Pieces ได้ดีที่สุด
 
 
TTM : ถ้าวันหนึ่งคุณสามารถแสดงบนเวทีร่วมกับศิลปินในฝันจะเลือกใคร 
Smash Into Pieces : ที่นึกออกในตอนนี้มีแค่คนเดียวครับ ผมอยากแสดงกับ "Myles Kennedy" เพราะเขามีเสียงที่ทุ้มต่ำ และมีเสียงสูงที่ทรงพลัง เขาเป็นแรงบันดาลใจให้กับวงพวกเรามาก ๆ ครับ 
 
TTM : คุณคิดว่าจุดเปลี่ยนชีวิตของวง Smash Into Pieces คือช่วงไหน ?
Smash Into Pieces : มี 2 ช่วงครับ ครั้งแรกคือปี 2016 ที่มีซิงเกิลเพลง "Let Me Be Your Superhero" และมี APOC เข้าร่วมวงทำให้แฟน ๆ ได้รู้จักมากขึ้น อีกช่วงคือ 2023 เป็นช่วงที่ทำให้วงเป็นที่รู้จักทั่วโลก เพราะได้ออกทีวีในการแข่งขันวงดนตรี Melodifestivalen ของสวีเดน 
 
 
TTM : ตั้งแต่เดบิวต์จนถึงตอนนี้ พวกคุณรู้สึกว่าดนตรีของวงพัฒนาไปในทิศทางไหนมากที่สุด
Smash Into Pieces : เป็นช่วงอัลบั้มที่ 3 "Rise and Shine" พื้นฐานพวกเราเป็นวงร็อกอยู่แล้วแต่หลังจากอัลบั้มนั้นพวกเราได้นำสไตล์อิเล็กทรอนิกส์ไซไฟเข้ามามากขึ้น หลังจากนั้นพวกเราก็ค้นพบเอกลักษณ์ของวงพวกเขาได้นิยามตัวเองว่าเป็น “Cyber Rock” แต่พวกเราก็ยังไม่หยุดนิ่งเพียงแค่นี้ ยังค้นหาอะไรใหม่ ๆ แล้วก็สร้างผลงานเพลงดี ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ
 
TTM : คุณคิดยังไงกับเพลงที่ถูกสร้างจาก AI? และมีหลายคนบอกว่าเป็นการทำลายอุตสาหกรรมเพลง
Smash Into Pieces : มองว่ามันเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ดีที่ช่วยพัฒนาวงการเพลงเลยครับ แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกว่ามันเป็นเหรียญสองด้าน ผมไม่อยากให้ AI ทำลายจิตวิญญานของศิลปินที่สร้างผลงานเอง ส่วนตัวพวกเราก็มีการใช้ AI บ้างเช่นเลียนเสียงของกันและกันเพื่อทำเดโม่ออกมาก่อน แต่ท้ายที่สุดก็อยากให้ศิลปินสร้างผลงานออกมาเองด้วยตัวเองครับ