๙ บทเพลงพระราชนิพนธ์ที่อยากแนะนำให้ทุกคนได้ฟัง

บันเทิง
๙ บทเพลงพระราชนิพนธ์ที่อยากแนะนำให้ทุกคนได้ฟัง

นอกจากพระราชกรณียกิจมากมายที่พระองค์ทรงงานเพื่อปวงชนชาวไทยตลอดมาแล้ว ยังมีอีกหนึ่งพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ พระมหากษัตริย์ลำดับที่ ๙ แห่งราชวงศ์จักรี


นอกจากพระราชกรณียกิจมากมายที่พระองค์ทรงงานเพื่อปวงชนชาวไทยตลอดมาแล้ว ยังมีอีกหนึ่งพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ พระมหากษัตริย์ลำดับที่ ๙ แห่งราชวงศ์จักรี นั่นคือบทเพลงพระราชนิพนธ์จากพระอัจฉริยภาพทางดนตรี เพื่อร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ และร่วมถวายความอาลัยในหลวงของปวงชนชาวไทยทุกคน เราจึงได้เลือกสรร ๙ บทเพลงพระราชนิพนธ์ที่ทางทีมงานประทับใจเป็นพิเศษ มาให้ทุกคนได้ฟังกัน


1. ยามเย็น หรือ Love at Sundown


 
 
‘ยามเย็น หรือ Love at Sundown’ เพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ ๒ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ด้วยจังหวะแบบ Foxtrot ทำให้เพลงนี้ถูกนำมาใช้สำหรับการเต้นรำอยู่เรื่อยมา และยังเหมาะสำหรับบรรยากาศยามเย็นขณะพระอาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้าอีกด้วย โดยพระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิรินิพนธ์คำร้องภาษาไทย และท่านผู้หญิงนพคุณ ทองใหญ่ ณ อยุธยาแต่งคำร้องภาษาอังกฤษ แล้วพระราชทานแก่นายเอื้อ สุนทรสนาน นำไปบรรเลงในงานของสมาคมปราบวัณโรค ณ เวทีลีลาศสวนอัมพร เมื่อวันที่ ๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๙ ซึ่งถือเป็นการเผยแพร่สู่ประชาชนครั้งแรกนั่นเอง

 
2. สายฝน หรือ Fallin



ต่อด้วยเพลง ‘สายฝน หรือ Falling Rain’ ในเพลงนี้พระองค์ทรงทดลองในจังหวะ Waltz ซึ่งมีเมโลดี้ที่ไพเราะเป็นอย่างมาก ชวนให้จินตนาการถึงสายฝนที่กำลังตกพรำๆ โดยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริเป็นผู้นิพนธ์คำร้องไทย และยังทรงนิพันธ์คำร้องภาษาอังกฤษร่วมกับท่านผู้หญิงนพคุณ ทองใหญ่ ณ อยุธยาอีกด้วย ต่อมาภายหลัง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯทรงมีรับสั่งถึงความลับของเพลงนี้ไว้เมื่อวันที่ ๑๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๔ ว่า

          "...เมื่อแต่งเป็นเวลา ๖ เดือน ม.จ.จักรพันธ์เพ็ญศิริ ได้เขียนจดหมายถึง บอกว่ามีความปลาบปลื้มอย่างหนึ่ง เพราะไปเชียงใหม่ เดินไปตามถนนได้ยินเสียงคนผิวปากเพลงสายฝน ก็เดินตามเสียงไปเข้าไปในตรอกซอยแห่งหนึ่ง ก็เห็นคนกำลังซักผ้าแล้วก็มีความร่าเริงใจ ผิวปากเพลงสายฝนและก็ซักผ้าไปด้วย ก็นับว่าสายฝนนี้มีประสิทธิภาพสูงซักผ้าได้สะอาด...ที่จริงความลับของเพลงมีอย่างหนึ่ง คือเขียนไป ๔ ช่วง แล้วก็ช่วงที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ ที่ ๔ เสร็จแล้วเอาช่วงที่ ๓ มาแลกช่วงที่ ๒ กลับไป ทำให้เพลงมีลีลาต่างกันไป...เป็น ๑ ๓ ๒ ๔..."

          นอกจากนั้น เพลงนี้ยังเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง ฝนตกที่ห้วยขาแข้ง ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการคีตราชนิพนธ์ ว่าด้วยเรื่องราวเหตุการณ์จริงของ สืบ นาคะเสถียร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งผู้อุทิศชีวิตเพื่อผืนป่าของไทยอีกด้วย

3. พรปีใหม่



         ‘พรปีใหม่’ บทเพลงพระราชนิพนธ์ที่เรามักได้ยินกันในเทศกาลปีใหม่ของทุกปี มีทำนองที่สนุกสนานและคำร้องเกี่ยวกับการอวยพรให้ทุกคนพบเจอแต่สิ่งดีๆในทุกๆปีใหม่ เปรียบเสมือนพระองค์พระราชทานพรให้แก่พสกนิกรชาวไทยทุกครั้งที่ได้ฟัง ซึ่งพระองค์ทรงพระราชนิพนธ์เมื่อเสด็จนิวัตพระนครและประทับ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน โดยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิรินิพนธ์คำร้องเป็นคำอวยพรปีใหม่ แล้วพระราชทานวงดนตรีนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำออกบรรเลง ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และวงดนตรีสุนทราภรณ์ นำออกบรรเลง ณ ศาลาเฉลิมไทย ในวันปีใหม่ปี ๒๔๙๕

4. ยามค่ำ หรือ Twilight



บทเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ ๒๕ ‘ยามค่ำ หรือ Twilight’ ที่ได้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิรินิพนธ์คำร้องทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษให้เช่นกัน หลังจากนั้นพระองค์ได้พระราชทานนำออกมาบรรเลงในงานของสมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกาในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ สโมสรสราญรมย์ เมื่อปี ๒๔๙๕ โดยเพลงนี้ยังคงความคลาสสิคของจังหวะ Foxtrot ไว้ได้เช่นเคย ถือเป็นเพลงที่เปลี่ยนคอร์ดและไล่โน้ตได้อย่างสวยงาม ทำให้รู้สึกอบอุ่น เหมือนได้อยู่ท่ามกลางหมู่ดาวยามค่ำคืนทุกครั้งที่ได้ฟัง
 
5. ยิ้มสู้ หรือ Smiles




 
         ‘ยิ้มสู้ หรือ Smiles’ อีกหนึ่งเพลงเพราะ ความหมายดี ที่พระองค์มีพระประสงค์จะให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิรินิพนธ์คำร้องภาษาไทยเพื่อเป็นการปลอบขวัญและให้กำลังใจแก่คนตาบอด โดยพระราชทานนำไปบรรเลงในงานสมาคมช่วยคนตาบอดในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อปี ๒๔๙๕ ในส่วนของคำร้องภาษาอังกฤษนั้น พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริได้นำบทกลอนชื่อ Smiles ในหนังสือ Bed Time Stories มาแปลและเรียบเรียงใหม่ โดยเพลงนี้มีความหมายที่ให้กำลังใจ เชื่อว่าใครก็ตามที่ได้ฟังในช่วงที่กำลังมีความทุกข์ ก็จะรู้สึกดีขึ้นและสามารถยิ้มสู้ให้กับทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามาในชีวิตได้ต่อไป นอกจากนั้น บทเพลงนี้ยังเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง อมยิ้ม หนึ่งในโครงการคีตราชนิพนธ์ โปรเจกต์เดียวกันกับเรื่อง ฝนตกที่ห้วยขาแข้ง อีกด้วย

6. Oh I Say


         

‘Oh I Say’ เป็นบทเพลงที่มีคำร้องเป็นภาษาอังกฤษภาษาเดียวเท่านั้น ด้วยจังหวะที่สนุกสนานและคำร้องที่ติดหูเพราะมีการเล่นคำได้อย่างคล้องจอง จึงชวนให้เราโยกตัวและร้องตามทุกครั้งไป เพียงได้ฟังแค่ท่อนแรกก็ทำให้เราเผลอยิ้มออกมาได้อย่างง่ายดาย โดยพระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมชเป็นผู้ประพันธ์ และถูกนำไปบรรเลงครั้งแรกในงานของสมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกาในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ สโมสรสวนสราญรมย์ ในปี ๒๔๙๘

7. แสงเดือน หรือ Magic Beams



 

เพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ ๒๗ ‘แสงเดือน หรือ Magic Beams’ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริได้นิพนธ์คำร้องทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย ด้วยทำนองที่ทำให้รู้สึกถึงความชดช้อยและอ่อนหวาน เหมาะสำหรับนำไปประกอบการเต้นบัลเล่ต์ พระองค์จึงได้พระราชทานนำไปประกอบการแสดงบัลเล่ต์ในงานสมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ เวทีลีลาศ สวนอัมพร เมื่อปี ๒๕๐๑ นอกจากนั้น บทเพลงนี้ยังมีการไล่เมโลดี้ได้อย่างไพเราะและละมุน ทำให้รู้สึกถึงความอ่อนโยนและสง่างามได้ในเวลาเดียวกัน
 
8. ฝัน หรือ Somewhere Somehow หรือ เพลินภูพิงค์



 

‘ฝัน หรือ Somewhere Somehow หรือ เพลินภูพิงค์’ บทเพลงพระราชนิพนธ์ที่มีชื่อเรียกถึง ๓ ชื่อและ ๓ คำร้องด้วยกัน โดยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริได้นิพนธ์คำร้องภาษาอังกฤษ และนายศรีศักดิ์ พิจิตรวรการ ประพันธ์คำร้องภาษาไทยในเพลง ‘ฝัน’ และถูกบรรเลงครั้งแรกในงานสมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกาและสมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ เวทีลีลาศ สวนอัมพร เมื่อปี ๒๕๐๒ จนเมื่อปี ๒๕๐๙ สมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถเริ่มเสด็จแปรพระราชฐานไปประทับ ณ พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ ทรงประทับพระราชหฤทัยในความงามของภูมิทัศน์ จึงได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานทำนองเพลงนี้ให้ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาคแต่งคำร้องเป็นเพลง ‘เพลินภูพิงค์’ ขึ้นอีกหนึ่งคำร้อง โดยเพลงนี้มีจังหวะที่ช้าและลงตัวเป็นอย่างมาก ฟังทีไรก็ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังเลื่อนลอยอยู่ในความฝันทุกครั้งไป
 
9. ในดวงใจนิรันดร์ หรือ Still on My Mind




สำหรับเพลงสุดท้ายที่เราเลือกมานี้คือ ‘ในดวงใจนิรันดร์ หรือ Still on My Mind’ เพลงที่ชวนให้เรานึกถึงภาพความรักและความผูกพันระหว่างพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มีกลิ่นอายของความโรแมนติก และความสวยงามทั้งในส่วนเมโลดี้และคำร้อง ทำให้รู้สึกเคลิบเคลิ้ม เหมือนความทรงจำต่างๆยังคงตราตรึงอยู่ในใจดังชื่อเพลง โดยเพลงนี้เป็นเพลงแรกที่พระองค์ทรงพระราชนิพนธ์ทั้งทำนองและคำร้องภาษาอังกฤษด้วยพระองค์เอง และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร ประพันธ์คำร้องภาษาไทยในเวลาต่อมา
 
          ๙ บทเพลงนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของบทเพลงพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร์มหาภูมิพลอดุลยเดชฯจากทั้งหมดถึง ๔๘ เพลง เราเชื่อว่ายังมีอีกหลายเพลงพระราชนิพนธ์เพราะๆที่คุณอาจยังไม่รู้จัก จึงอยากเชิญชวนให้ทุกคนลองศึกษาและหาบทเพลงเหล่านี้มาฟัง นอกจากความไพเราะเพราะเพลิดเพลินที่ได้รับแล้ว เราเชื่อว่าบทเพลงพระราชนิพนธ์เหล่านี้จะทำให้คุณซาบซึ้งในพระอัจฉริยภาพทางดนตรีของพระองค์ และพระมหากรณาธิคุณที่จะยังคงติดตรึงในหัวใจของพวกเราชาวไทยตราบนานเท่านาน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://kanchanapisek.or.th : http://kanchanapisek.or.th/royal-music/index.th.html


ที่มา :