10 ความลับ

ไลฟ์สไตล์
10 ความลับ

ขอพาคุณไขเคล็ดลับเรื่องรักๆ ที่ได้รับการพิสูจน์จากหลักทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าเวิร์ก อย่างแน่นอน

 

บทความความรัก

คนคบกันนานๆ ใช่ว่าจะดี ถ้าจะให้ดีจริงต้องนานและหวานไม่เสื่อมคลาย


Women’Health ฉบับนี้จึงขอพาคุณไขเคล็ดลับเรื่องรักๆ ที่ได้รับการพิสูจน์จากหลักทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าเวิร์ก อย่างแน่นอน

1. ทำเป็นว่าเพิ่งจีบกันใหม่ๆ

ไม่ว่าคุณทั้งสองเพิ่งเจอกันมา 6 เดือนหรือ 6 ปีแล้วก็ตาม ลองหาเวลากระชับความสัมพันธ์ด้วยการแสร้งทำเป็นเพิ่งรู้จักกันใหม่ๆ คิดถึงสมัยจีบกันแรกๆ ว่ามันตื่นเต้นหอมหวนขนาดไหน แทนที่จะถามแต่เรื่องเพลนๆ ว่าวันนี้ทำอะไรมา ทำงานเหนื่อยไหม ลองเปลี่ยนเป็น ‘ถ้าถูกลอตเตอร์รี่จะซื้ออะไรเป็นอย่างแรก หรือละครเรื่องไหนที่ดูแล้วนึกถึงเราสองคน’ เหมือนกับที่คุณหมอเทอรี่ ออร์บุช (Terri Orbuch) เจ้าของหนังสือ 5 simple steps to take your marriage from good to great  กล่าวว่า “เมื่อคบกันไปจุดหนึ่งคู่รักจะเลิกถามคำถามเพื่อทำให้รู้จักกันมากขึ้น เนื่องจากต่างคนต่างคิดว่ารู้จักกันดีพอแล้ว” แต่อย่าลืมว่าเวลาเปลี่ยน คนเปลี่ยน สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตคือสิ่งที่ทำให้ความรักนั้นเบ่งบาน อันนี้เขาพิสูจน์มาแล้วจากการสัมภาษณ์ 373 คู่รักที่เห็นผลว่าความรักของพวกเขาดีขึ้นจริง

2. หนังโรแมนติกทำลายฉัน

เมื่อใดที่รู้สึกว่าเจนนิเฟอร์ อนิสตัน หรือแอชตัน คุชเชอร์ กลายมาเป็นพระเอก-นางเอกขวัญใจประจำบ้าน ขอบอกว่าชีวิตรักของคุณเริ่มมีปัญหาแล้ว เนื่องจากการดูหนังโรแมนติก-คอมเมดี้มากเกินไปเป็นการสร้างฝันที่ไม่มีวันเกิดขึ้นจริง เพราะเราจะติดภาพความสันพันธ์แบบพ่อแง่-แม่งอนจนลืมไปว่านั่นมันหนังหรือละคร สิ่งเหล่านั้นจะหล่อหลอมตัวเราให้หลงเลือนไป คิดว่าตนเองเป็นเหมือนนางเอกในหนัง คาดหวังเรื่องความสัมพันธ์ไปต่างๆ นานา และผิดหวังอย่างแรงเมื่อมันไม่เป็นไปอย่างที่คิด (แน่สิ)

3. ทฤษฎีแรงดึงดูดใช้ไม่ได้จริงเสมอไป

รู้ไหมว่าการคบกับคนหน้าตาธรรมด้า…ธรรมดา ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นเป็นกุญแจสู่ความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน ตามการศึกษาของ The Journal of Family Psychology พบว่าหากฝ่ายชายแต่งงานกับผุู้หญิงที่ดูดีกว่ามีแนวโน้มว่าจะคอยอยู่เคียงข้างคนรักเสมอ ในทางกลับกันหากสามีคุณหล่อขั้นเทพมาเอง อันนี้ต้องทำใจเลยว่าพ่อหนุ่มหล่ออาจไม่ซัพพอร์ตคุณเท่าไรนัก (หากผู้หญิงมีดัชนีมวลกายหรือ BMI ต่ำกว่าฝ่ายชายมีแนวโน้มว่าทั้งสองจะอยู่ด้วยกันอย่างเป็นสุข) แต่ถ้าคุณดันมีแฟนหล่อ ทางออกสั้นๆ ง่ายๆ นั่นคือ ‘แรงใจ’ หมั่นให้แรงใจ สนับสนุนกันและกัน แล้วรักของคุณจะยืนยาว

4. รักนี้ไม่เอาเหล้า

ไม่ว่าจะเข้ากันได้ดีขนาดไหน บางคู่ตกม้าตายเพราะเหล้าทุกที จากการค้นคว้าล่าสุดพบว่าคนดื่มหนัก (ผู้หญิง 4 แก้ว และผู้ชาย 5 แก้วขึ้นไป) มีแนวโน้มว่าจะแต่งงานและหย่าร้างเร็วกว่าคนอื่น สิงห์ปาร์ตี้มักไวไฟ ใจแล่น และไม่มั่นคงต่อความสัมพันธ์ หากคุณต้องการความสัมพันธ์ที่แนบแน่นมั่นคง คุณต้องชั่งใจดูให้ดี ถ้าเขาเมาแล้วไปเจ้าชู้ใส่คนอื่นจะเป็นยังไง ทางเดียวที่ทำได้คือควบคุมพฤติกรรมการดื่มของแฟนซะ

5. เอาน้ำเย็นเข้าลูบ

จู่ๆ แฟนก็หัวเสียสุดๆ เมื่อกลับถึงบ้าน พูดจาหาเรื่องตลอดเวลา แทนที่จะแรงกลับ ลองคิดว่าเขาอาจมีปัญหาที่ไหนมาถึงได้ฟาดงวงฟาดงาอย่างที่เห็น ลองเอาน้ำเย็นเข้าลูบ เพราะการเยียวยาหัวใจที่ได้ผลดีที่สุดคือการที่คุณไม่ปล่อยให้เรื่องอื่นเข้ามาสร้างปัญหาที่มีอยู่แล้วเลวร้ายลงไปอีก คนเป็นแฟนกันย่อมเข้าใจ และพร้อมรับฟังปัญหาในวันหนักๆ ให้ผ่านพ้นไปด้วยดี

บทความความรัก

6. ทวิตไม่เอา ขอสวีต

จากผลการสำรวจของ okcupid.com กับคนกว่าแสนพบว่าบรรดาพวกชอบทวิตทั้งหลายมักมีความสัมพันธ์ไม่ยืนยาว เมื่อเทียบกับคนที่ไม่เอาแต่จดจ่ออยู่หน้าคอมพ์ “การดูมือถือตลอดเวลานั้นทำลายความโรแมนติกที่คุณมี” ฮัตต์ (Hatt) เผยข้อมูล เวลาอยู่กับแฟนคุณจึงไม่ควรหยิบมือถือขึ้นมาดูบ่อยๆ หรือสนใจแต่โลกไซเบอร์อย่างทวิตเตอร์ เฟสบุ๊ค whatsapp สู้เอาเวลามาจ้องตาและพูดคุยกับคู่รักตรงหน้าดีกว่า   

7. ลัคกี้อินเลิฟ อันลักลี้อินเกม ?!?

ผู้หญิงเก่งมักไม่โชคดีเรื่องรัก เห็นทีเรื่องนี้จะจริง เพราะ 63 เปอร์เซ็นต์ของดาราที่ชนะรางวัลออสการ์มักจบลงที่การหย่าร้าง นักวิจัยของ Carnegie Mellon University และ University of Toronto พบว่าดาราที่มีชื่อเข้าชิงรางวัลสาขาต่างๆ (ทั้งชายและหญิง) กว่า 60 เปอร์เซ็นต์มักหย่าร้างหรือเลิกรากับคนรัก เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าการประสบความสำเร็จมีผลต่อความสัมพันธ์อย่างไม่ต้องสงสัย “อัตราการหย่าร้างที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นผลพวงจากความรู้สึกตะขิดตะขวงใจที่ฝ่ายชายมีต่อความสำเร็จของฝ่ายหญิง ในทางกลับกันผู้หญิงเองจะเริ่มตั้งคำถามกับสถานะทางสังคม พวกเธอมีความมั่นใจและมีโอกาสมากกว่าในการเดินหนีจากความสัมพันธ์แย่ๆ คุณทั้งสองจึงควรหมั่นให้กำลังใจ เข้าอกเข้าใจ และยินดีกับความสำเร็จของกันและกันไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ก็ตาม

8. ความเสมอภาคในชีวิตคู่

ลืมดอกไม้ไปก่อน เพราะตอนนี้สตรีนิยมหรือแนวคิดที่ชาย-หญิงเท่าเทียมกัน มีสิทธิและหน้าที่ในระดับเดียวกันกลับกลายมาเป็นความโรแมนติกรูปแบบใหม่ที่ผู้หญิงยุคนี้ต้องการ เมื่อผู้เชี่ยวชาญจาก Rutgers University ในนิวเจอร์ซีย์พบว่าคู่รักสตรีนิยมจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกว่า หากฝ่ายชายจับคู่กับผู้หญิงที่เป็นเฟมินิสต์จัดๆ พวกเขาจะมีความพึงพอใจทางเพศและความมั่นคงในความสัมพันธ์ “ผู้ชายที่ยึดแนวคิดสตรีนิยมจะช่วยกระตุ้นและส่งเสริมให้ฝ่ายหญิงมีความทะเยอทะยานในหน้าที่การงาน และเอาชนะเป้าหมายในชีวิต” คุณหมอลอรี่ รัดแมน (Laurie Rudman) ระบุ ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ไม่รู้สึกกดดันจากคนรัก แถมผู้หญิงประเภทนี้ยังกล้าเป็นฝ่ายเริ่มเรื่องบนเตียงก่อน ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีผู้ชายคนไหนอยากปฏิเสธ

9. เลิกพฤติกรรมเลียนแบบ

ไม่ว่าจะรู้หรือไม่รู้ตัวก็ตาม เวลาคนเราเห็นเพื่อนสนิทหย่าหรือเลิกกับแฟน 75 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงกล้าที่จะบอกลาคู่ของตนเองบ้าง “การเห็นคนบอกเลิกหรือหย่าร้างเป็นเหมือนใบเบิกทางว่าฉันเองก็มีสิทธิที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตตนเอง” ข้อนี้มาจากการศึกษาของคุณหมอ โรส แม็คเดอมอตต์ (Rose McDermott) แต่ในทางกลับกันหากคุณพยายามให้เพื่อนรักประคับประคองชีวิตคู่ หาจุดกลางให้ครองรักกันอย่างมีความสุข แนวโน้มที่คุณจะเลิกกับแฟนก็น้อยลงเช่นกัน  

10. ยิ่งถี่ยิ่งดี

คนอเมริกันทั่วไปมีเซ็กซ์ 2-3 ครั้งต่อเดือน แต่เมืองไทยอย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง เพราะยิ่งมีเซ็กซ์ ความสัมพันธ์ยิ่งแนบแน่น จากผลวิจัยล่าสุดของ Dartmouth College และ University of Warwick ในอังกฤษ พ[ว่าไม่ใช่แค่เรื่องเซ็กซ์ที่ทำให้ชีวิตรักล้นปรี่ด้วยความสุข หากแต่ ‘ความถี่’ ของการมีเซ็กซ์ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในชีวิตคู่ “คู่รักที่มีความรู้สึกต่อกันจะมีเซ็กซ์บ่อยครั้ง” ยืนยันจากการศึกษาของคุณหมอแอนดริว เจ ออสวาล์ด (Andrew J. Oswald) เห็นไหมว่าเซ็กซ์ถูกที่ ถูกเวลา และถูกคนไม่ทำร้ายใครจริงๆ