เที่ยวไต้หวันด้วยตัวเอง 5 ที่เที่ยวไต้หวันฉบับเติมพลังชีวิตปี 2019

กินเที่ยว
เที่ยวไต้หวันด้วยตัวเอง 5 ที่เที่ยวไต้หวันฉบับเติมพลังชีวิตปี 2019

เสียงส่วนใหญ่โดยเฉพาะคนที่เคยไปเที่ยวไต้หวันมาแล้ว ชอบพูดกันว่าไปเที่ยวไต้หวัน เหมือนได้ไปญี่ปุ่นแต่ “ถูกกว่า”

เราเลยรู้สึกว่าการเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเอง สำหรับคนที่คิดจะเริ่มออกไปเที่ยวต่างประเทศสักครั้ง น่าจะเป็นอะไรที่ไม่ยากเกินกว่าจะได้ลอง!
 
ปัจจุบันไต้หวันมีแหล่งท่องเที่ยวที่ครบรสไม่ต่างจากประเทศญี่ปุ่นที่คนไทยแห่กันไปเที่ยวปีละเป็นล้านคน  เที่ยวสนุกเหมือนกัน ไม่ว่าเพื่อนๆ จะเป็นสายไหน เราก็สามารถไปชาร์จพลังกลับมาได้เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นการไปไหว้ขอพรแบบสายมูเตลู สายกินที่แค่ได้ไปกินของอร่อยๆ ราคาถูกๆ ก็เหมือนได้เติมพลังชีวิตกลับมาอีกครั้ง หรือจะไปช้อปปิ้งบำบัด แบบสายช้อป หรือแม้แต่เมื่อเพื่อนๆ เบื่อชีวิตวุ่นวายในเมืองใหญ่ อยากไปหาแหล่งเงียบๆ นั่งจิบกาแฟ ใช้ชีวิตสโลว์ๆ บ้างก็ได้เช่นกัน
 
 
ไต้หวันยังพัฒนาประเทศของตัวเองขึ้นมาเรื่อยๆ จนมีความทันสมัยและใส่ใจพลเมืองแทบจะไม่ต่างจากญี่ปุ่น สังเกตจากทางเท้าที่มีไว้บริการกับคนทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นเลนรถเข็นเด็กต่างๆ นานา ดังนั้นไม่ต้องห่วงเลย ถ้าเพื่อนๆ จะติดน้องตัวน้อยห้อยตามไปเที่ยวด้วย ไม่ใช่ปัญหาแน่นอน จะเที่ยวไทเปด้วยแอพพลิเคชั่นเป็นผู้แนะนำเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเอง ก็ง่ายแสนง่าย และนี่คือ 5 Power Spot ที่เที่ยวไต้หวันที่จะช่วยให้เพื่อนๆ ได้เติมพลัง กลับมาสู่กับงานกองใหญ่ที่รออยู่ตรงหน้าตลอดทั้งปี 2019 นี้
 
1. เติมพลังชีวิตด้วยการไปไหว้เจ้า ที่วัดหลงซาน Longshan Temple
 
เปิดทริปการไปเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเอง กับการไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันก่อน ซึ่งหลายๆ คนอาจรู้จักกับวัดหมายเลข 1 ที่คนไทยไต้หวันต้องไปกันเลยก็คือวัดหลงซาน ที่นี่ประดิษฐานรูปปั้นเทพเจ้านับรวมๆ แล้วกว่า 165 องค์ ขอพรได้ครบทุกด้านของชีวิตเลย ทั้งคนที่อยากมาขอพรเกี่ยวกับเรื่องของคู่รัก การงาน สุขภาพ ก็มีให้สักการะทั้งหมด
 
 
แต่สิ่งที่เราไม่อยากให้เพื่อนๆ พลาดเลยคือการไปขอพรด้านคู่รักที่นี่เขาว่ากันว่า แค่ใช้วิธีการเสี่ยงทายแบบไม้แดงคู่ อธิษฐานถามเทพเจ้าว่าใช่หรือไม่ใช่ ถ้าไม้ออกคว่ำหงาย = ใช่ ได้ หรือ ถูกต้อง ถ้าไม้ออกคว่ำคู่ = ไม่ใช่ ไม่ได้ หรือไม่ถูกต้อง และถ้าไม่ออกหงายคู่ = ยังไม่ชัดเจน
 
หลังจากเสี่ยงทายเรื่องความรักแล้ว ก็อย่าลืมกลับมาขอจากองค์เจ้าแม่ทับทิม เกี่ยวกับเรื่องการเดินทางด้วย ซึ่งองค์เจ้าแม่ทับทิมหรือเจ้าแม่หม่าจู่ องค์นี้เป็นเทพที่ชาวไต้หวันให้ความเคารพและเป็นที่รู้จักกันอย่างมาก มากถึงมากที่สุด ฉะนั้นเพื่อนๆ ก็อย่าลืมไปขอพรกันด้วยล่ะ
 
การเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ไปลงสถานี Longshan Temple ออก Exit 1 เลี้ยวขวาแล้วเดินต่อไปอีก 200 เมตร
 
ShopBack Tips : ถ้าเพื่อนๆ มาเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเองครั้งแรก ลองเข้าไปดูโปรโมชั่นอินเตอร์เน็ตแบบคุ้มๆที่ AIS Online ผ่านทางลิ้งค์ของ ShopBack ได้เลย มีอินเตอร์เน็ตกับตัว จะใช้แผนที่ คุยกับเพื่อน หรือหาข้อมูลอะไรก็สะดวกไปหมด
 
2. ช้อปปิ้งให้หนำใจ พร้อมเสพงานศิลป์ที่ย่านซีเหมินติง (XimenDing)
 
ที่นี่คือย่านช้อปปิ้งที่ครบสุดๆ แล้วในไทเป เรียกว่าหาได้ทุกแบรนด์ ซื้อกันให้กระหน่ำ จนล้มละลายกันตรงนี้ไปเลย เทียบง่ายๆ ย่านซีเหมินติงแห่งนี้ ก็เหมือนสยามสแควร์บ้านเรา ถ้าเพื่อนๆ ไปเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเอง ไม่มีตารางเวลาอะไร ก็สามารถกระจายตัวออกแล้วแยกกันเดินเพื่อนไม่เป็นการเสียเวลาได้เลย ใครอยากส่องไฮแบรนด์ หรือใครอยากส่องสตรีทแบรนด์ ก็ไปได้เลยตามสะดวก ย่านนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในย่านความเจริญที่ญี่ปุ่นทิ้งไว้ให้ไต้หวัน หลังจากที่ไต้หวันตกเป็นอานานิคมมานาน
 
Image Credit : Airfrance.co.uk
 
ช้อปกันหนำใจแล้ว ถ้าไม่รู้ว่าจะไปนัดเจอกันตรงไหน เราแนะนำสถานที่นี้ The Red House ในย่านที่วัยรุ่นพลุกพล่านขนาดนี้ ยังมีตึกนึงที่ดึงดูดสายตาของเราอยู่ ตึกที่แปลกตากว่าตึกอื่นๆ รอบบริเวณ ตึกอิฐสีแดงที่เป็นสัญลักษณ์ของย่านการค้าที่สร้างโดนสถาปนิกชาวญี่ปุ่น ปัจจุบันเป็นแหล่งโชว์งานศิลปะของเหล่านักศึกษาในไต้หวัน ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางย่านซีเหมินเลย เพราะฉะนั้นนัดกันตรงนี้ รับรองไม่หลง
 
นอกจากจะเป็นจุดนัดพบที่สังเกตเห็นได้ชัดๆ แล้ว ที่ตึกแดงแห่งนี้วันเสาร์ – อาทิตย์ ยังเป็นตลาดนัดงานศิลป์ด้วย โดยจะมีวัยรุ่นมานั่งขายงานศิลปะกันอย่างคึกคักเลย ตั้งแต่ช่วง 5 โมงเย็น – 3 ทุ่มครึ่ง
 
การเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้า MRT ลงสถานี Ximen ขึ้นทางออก 1 มาจะถึงทางเข้าย่านนี้เลย

 
3. เสพความสงบใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ ในย่านฟูจิน (Fujin Street)
 
สำหรับสายถ่ายรูปชิลล์ๆ เน้นนั่งร้านกาแฟกินบรรยากาศ เดินเที่ยวแบบช้าๆ ไม่เร่งรีบ ถนนเส้นนี้จะเป็นสิ่งที่คุณต้องหลงรักเมื่อมาเที่ยวที่ไต้หวัน ถนน Fujin ที่นี่คือแหล่งรวมคาเฟ่ดีไซน์เก๋ๆ เพียบ พักการดื่มชานมไข่มุกในย่านดาวน์ทาวน์ กลับมานั่งจิบกาแฟพักผ่อนขากันสักวันก็ดีไม่น้อย และไม่ใช่แค่ร้านกาแฟเก๋ๆ เท่านั้น ที่นี่ริมสองข้างทางยังปกคลุมด้วยต้นไม้สีเขียวบรรยากาศร่มรื่นๆ แล้วก็ยังมีร้านแนวลอคัลแบรนด์ ทั้งที่มาจากฝั่งไต้หวัน และมาจากฝั่งญี่ปุ่นด้วย ซึ่งเราบอกได้เลยว่า ดีไซน์ของไอเท็มต่างๆ เนี่ย สวยงามไม่แพ้บรรยากาศของร้านกาแฟเลย
 
 
ส่วนคาเฟ่ที่เราอยากให้เพื่อนๆ แวะไปนั่งกันสักหน่อย ถ้าผ่านมาย่านนี้คือ Fujin Tree และสาขาไหนก็ได้ เพราะว่าในย่านนี้ มี Fujin Tree อยู่หลายร้านมาก แต่ทุกร้านจะมาในคอนเซ็ปท์เดียวกันหมด ขาวๆ คลีนๆ ให้ความรู้สึกอบอุ่น เป็นกันเองเมื่อเข้าไป นอกจากกาแฟรสชาติกลมกล่อมแล้ว ในร้านยังมีเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงสินค้าแฟชั่นวางจำหน่ายให้เพื่อนๆ ได้เลือกกันด้วย
 
การเดินทาง : นั่ง MRT ลงสถานี Songshan Airport ออก Exit 3
 
ShopBack Tips : นักเดินทางรุ่นใหม่กับรูปสวยๆ เป็นของคู่กัน เก็บภาพความสนุกในวันหนุ่มสาว กล้องดีๆ ต้องมีติดตัวไปด้วย แล้วถ้ากำลังมองหากล้องใหม่ โปรโมชั่นดีๆ อยู่ใน PowerBuy โปรโมชั่นเพียบ แถมยังได้เงินคืนเมื่อช้อปผ่าน ShopBack ด้วย
 
4. กินอย่างมีความสุข ที่ตลาดปลา Addiction Aquatic Development
 
เราเชื่อว่าการมาเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเองของหลายๆ คน อาจจะเป็นการหยั่งเชิงก่อนไปเที่ยวญี่ปุ่น เพราะฉะนั้นหนึ่งในลิสต์ที่หลายๆ คนต้องมาลิ้มลองเลยก็คือ “ปลาดิบ” และที่ไทเปก็มีตลาดปลาใหญ่มากๆ ไว้รองรับนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ด้วย บอกเลยว่า สด  ซื้อตรงนั้น แล่เป็นซาชิมิกันตรงนั้น หรือถ้าจะทำสุกด้วยวิธีต่างๆ ก็มีให้เลือกกันเหมือนกัน เราจะได้เจอกับบ่อปลาขนาดมหึมาที่มีทั้ง กุ้ง หอย ปู ปลา ครบ เลือกกันไม่ถูกเลยว่าจะกินแบบไหน อย่างไรดี แล้วที่สำคัญคือเปิดตั้งแต่ 6โมงเช้า – เที่ยงคืน หิวเมื่อไหร่ก็ไปได้เลย
 
Image Credit : addiction.tw
 
แต่ที่นี่จะต่างจากตลาดปลาอื่นๆ อยู่หน่อยนึง ตรงที่ว่า อาคารแห่งนี้เรียกว่าแทบจะเป็นห้างขนาดย่อมๆ เลย ด้วยตัวตึกที่สะอาดไม่ทำให้เลอะเทอะ เหมือนตลาดสดจริงๆ เอาเป็นว่าจะเรียกว่าตึกขายอาหารสดก็ไม่ผิด และความสะดวกสบายของที่นี่คือ เพื่อนๆ สามารถซื้อของสดจากด้านใน แล้วออกมานั่งทานกันด้านหน้าบริเวณอาคารได้ เพราะทางอาคารเขาได้จัดเตรียมพื้นที่ไว้ให้บริการเราอยู่แล้ว ยิ่งไปชวนหน้าหนาวอากาศดีๆ ได้กินปลา หรือ กุ้งเผา ที่ทำกันสดๆ ตรงนั้น รับรองว่าเป็นช่วงเวลาที่คุ้มค่าแน่นอน
 
การเดินทาง : รถไฟสายสีส้ม ลงสถานี XingTian Temple ออก Exit 3 จากนั้นเดินต่อประมาณ 700 เมตร
 
ShopBack Tips : อย่ามัวแต่ห่วงเรื่องกินเวลาเที่ยว เพราะสุขภาพต้องมาเป็นหลัก จะไปเที่ยวทุกครั้งอย่าลืมซื้อประกันการเดินทางแบบมี โปรโมชั่น MSIG ติดตัวไปกันด้วย แถมประหยัดได้มากกว่า ถ้าซื้อผ่าน ShopBack นะ อันนี้สำคัญมากห้ามลืม!
 
5. ย้อนกลับไปเป็นเด็ก ด้วยฉากในการ์ตูนที่เมืองโบราณจิ่วเฟิ่น (Jiu Fen Old Street)
 
ขึ้นชื่อว่าเมืองโบราณแต่ หมู่บ้านแห่งนี้ในจิ่วเฟิ่น ไม่ได้โบราณ 200 – 300 ปี ขนาดนั้น เราว่ามันให้อารมณ์เหมือนหมู่บ้านในยุค 50s – 80s ประมาณนี้ บ้านที่เรียงรายกันอยู่ตามแนวภูเขา แต่ละหลังเรียงชิดติดกัน เปิดเป็นร้านขายของกระจุกจิก อาหารบ้าง เครื่องประดับต่างๆ นานา ของหวาน แต่ถ้าใครมาไต้หวันของฝากที่ต้องซื้อกลับไปจากจิ่วเฟิ่นเลยก็คือพวกขนมต่างๆ ที่มีขายกันเยอะมาก ในย่านนี้
 
Image Credit : taiwanday.com
 
ทำไมเราถึงอยากให้สายอะนิเมะมาที่เที่ยวไต้หวันแห่งนี้ เราชื่อว่าทุกคนที่รักการ์ตูนต้องรู้จัก คาโอนาชิ หรือ ปีศาจผีไร้หน้าที่มีหน้ากากสีขาว คลุมด้วยผ้าคลุมสีดำ คาแร็กเตอร์ยอดฮิตจาก การ์ตูนเรื่อง Spirited Away ซึ่งหนึ่งในฉากดังของการ์ตูนเรื่องนี้มันมีอยู่จริง แล้วมันก็ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ในเมืองโบราณจิ่วเฟิ่น
 
หรือจะเป็น A Mei Teahouse ร้านน้ำชาที่ห้อยโคมไฟสีแดงไว้ทั่วร้าน ซึ่งเหมือนฉากในการ์ตูนเรื่องนี้เปี๊ยบ ที่นี่จะมีบริการน้ำชากับขนมเล็กๆ น้อยถ้าเพื่อนๆ อยากจะเข้าไปนั่งสัมผัสบรรยากาศในร้าน ซึ่งราคาก็ค่อนข้างแรง แต่ถ้าอยากมาถ่ายรูปเฉยๆ จิบขนมตามทางเดินมาเรื่อยๆ แล้วมาหยุดโพสท่าเผลอๆ กันตรงนี้ ก็โอเคเลย
 
การเดินทาง : จากไทเป นั่งรถไฟ MRT ลงสถานี Zhongxiao Fxing ออก Exit 1 ขึ้นมารอรถบัสหมายเลข 1062 ต่อ สายนี้จะมุ่งตรงไปยังเมืองโบราณจิ่วเฟิ่นเลย ไม่ต้องต่อสายอื่นให้ยุ่งยาก ค่าโดยสารประมาณคนละ 102 ดอลลาร์ไต้หวัน
 

 
บอกแล้วว่าเที่ยวไต้หวันน่ะครบ! เพราะฉะนั้นถ้าจะฟอร์มทีมกับเพื่อนๆ เป็นกลุ่มไปเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเองละก็ เพื่อนสายไหนก็ไปกับเราได้ทั้งนั้น แถมทุกคนจะต้องสนุกไปกับบรรยากาศของประเทศนี้แน่นอน ไม่ต้องกังวลว่าจะเที่ยวยาก ถึงไต้หวันที่เที่ยวเยอะ แต่ที่เที่ยวไต้หวันแต่ละแห่ง แทบจะมีรถขนส่งสาธารณะไปถึงทั้งหมด ง่ายและชิลล์จริงๆ

 
Source : SHOPBACK