ทะเลใกล้กรุง "ตราด..เมืองเกาะในฝัน"

กินเที่ยว
ทะเลใกล้กรุง "ตราด..เมืองเกาะในฝัน"

ไปสัมผัสกับทรายขาวๆ น้ำใสๆ ฟ้าสีสดๆ กดชัตเตอร์รัวๆ แล้วเอาภาพมาอัพลงโซเชียลให้เต็มที่กันไปเลย



เกาะช้าง
เกาะขนาดใหญ่ที่สุดของฝั่งทะเลอ่าวไทย และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย รองจากภูเก็ต เกาะช้าง (Koh Chang) มีชายหาดและแหล่งท่องเที่ยวบนเกาะเยอะมาก ทั้งหาดทรายขาวๆ น้ำทะเลใสๆ น้ำตก ชุมชนท่องเที่ยว และยังมีหมู่เกาะน้อยใหญ่ที่อยู่ใกล้เคียงอีกหลายแห่ง ทำให้เกาะช้างเป็นสถานที่ยอดนิยมอันดับต้นๆ ของเมืองไทยตลอดมา เกาะช้างเป็นเกาะที่มีสภาพภูมิอากาศที่ไม่ร้อน หรือหนาวจนเกินไป การเดินทางไปยังเกาะช้าง ค่อนข้างสะดวก และพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง ในอดีตเกาะช้าง เป็นเกาะที่ไม่มีชุมชนตั้งถิ่นฐานอยู่อาศัย แต่มีความสำคัญในฐานะที่เป็นท่าจอดเรือหลบลมมรสุม แหล่งเสบียงอาหาร และน้ำจืด โดยเฉพาะที่บริเวณอ่าวสลักเพชร เกาะช้างนับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของนักเดินทางผู้รักทะเล ด้วยเพราะความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศของเกาะช้างที่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถเดินทางมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี คลื่นลมสงบ รวมถึงเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่งดงาม
 
เกาะกูด
เกาะกูด เป็นเกาะสุดท้ายทางทิศตะวันออกของประเทศไทย อยู่ในเขตน่านน้ำทะเลตราด มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศ ระยะทางห่างจากตัวเมืองตราดประมาณ 80 กิโลเมตร (ใช้เวลาเดินทางจากท่าเรือแหลมศอกโดย
 
เรือเร็ว Speed Boat ประมาณ 1 ชั่วโมง) มีเนื้อที่ 105 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ (65,625 ไร่ โดยมีขนาดความยาวของเกาะ 25 กิโลเมตร และขนาดความกว้าง 12 กิโลเมตร ลักษณะโดยทั่วไปของเกาะยังคงสภาพความเป็นธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ มีภูเขาสลับที่ราบสันเขาซึ่งเป็นต้นกำเนิด ลำธาร สายน้ำ ทำให้เกาะกูดมีน้ำตกหลายแห่ง แต่ที่ขึ้นชื่อบนเกาะกูดคือ น้ำตกคลองเจ้า ช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการเที่ยวน้ำตกคลองเจ้า คือ ตุลาคม - มกราคม ตัวน้ำตกมีทั้งหมด 3 ชั้น โดยชั้นบนจะมีลักษณะเป็นลำธาร ส่วนชั้นล่างเป็นแอ่งลำธารจากน้ำตกขนาดใหญ่ สามารถลงเล่นน้ำได้ น้ำตกแห่งนี้ถือว่าเป็นน้ำตกประวัติศาสตร์คือ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเคยเสด็จประพาสเมื่อ พ.ศ. 2454 ทรงพระราชทานนามว่า “น้ำตกอนัมก๊ก” เพื่อเป็นที่ระลึกถึงองค์เชียงสือ กษัตริย์ญวนที่เคยเข้ามาลี้ภัยจากการจราจลในสมัยรัชกาลที่ 11
 
ทางฝั่งตะวันตกของเกาะกูดมีน้ำทะเลที่ใสสะอาด ธรรมชาติสงบเงียบร่มรื่นด้วยทิวมะพร้าวริมหาด ชายหาดมีความสวยงามหลายแห่ง เช่น อ่าวยายกี๋ หาดคลองหินดำ อ่าวตะเภา หาดคลองเจ้า อ่าวบางเบ้า หาดตะเคียน อ่าวจาก อ่าวพร้าว และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะ เช่น เขาเรือรบ ต้นไม้ยักษ์ น้ำตกคลองเจ้า น้ำตกคลองยายกี๋ น้ำตกห้วงน้ำเขียว ชุมชนชาวประมงบ้านอ่าวใหญ่ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบท่องเที่ยวและพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ อย่างไรก็ตามชนพื้นถิ่นดั้งเดิมของเกาะกูดส่วนใหญ่เป็นชาวไทยและชาวกัมพูชาในเกาะกงที่อพยพเข้ามาเมื่อเมืองปัจจันตคีรีเขตรตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศสในปี พ.ศ. 2447 หมู่บ้านคลองมาดเป็นหมู่บ้านที่เก่าแก่ที่สุด ปัจจุบันชาวเกาะกูดยังดำรงชีพด้วยเกษตรกรรมทั้งทำสวนยางพารา สวนมะพร้าว สวนผลไม้เพียงเล็กน้อยและทำประมงชายฝั่ง

น้ำตกคลองเจ้า เกาะกูด
น้ำตกประวัติศาสตร์ของชาวเกาะกูด ตั้งอยู่บริเวณค่อนไปทางทิศใต้ของเกาะกูด เป็นน้ำตกขนาดกลางที่มีความสวยงามมาก มีสายน้ำไหลผ่านตลอดทั้งปี หน้าผาหินสูงประมาณ 10 เมตร ชั้นล่างเป็นลำธารจากน้ำตกขนาดใหญ่ ซึ่งเหมาะแก่การเล่นน้ำอย่างมาก (ต้องสวมชูชีพก่อนลงเล่นน้ำ) น้ำตกแห่งนี้ถือว่าเป็นน้ำตกประวัติศาสตร์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จประพาสเมื่อ พ.ศ. 2454 ทรงพระราชทานนามว่า “น้ำตกอนัมก๊ก” เพื่อเป็นที่ระลึกถึงองค์เชียงสือกษัตริย์ญวนที่เคยเข้ามาลี้ภัยจากการจราจลในสมัยรัชกาลที่ 1 ปัจจุบัน น้ำตกคลองเจ้า เป็นแหล่งท่องเที่ยว 1 ใน 5 แห่งของเกาะกูด ที่ต้องแวะมาเยี่ยมชมความสวยงาม การเดินทางเข้าถึงตัวน้ำตกต้องจอดรถไว้ด้านนอก แล้วเดินเท้าเข้าสู่ตัวน้ำตกประมาณ 400 เมตร ช่วงฤดูที่น้ำตกสวยที่สุด คือ พฤษภาคม - ธันวาคม


 
ต้นไม้ยักษ์
ขี่แมงกะไซด์ทะลวงเข้าป่าไปนิดนึง ทางพอใช้ได้ไม่ลำบากต้องลงเข็น เดินเท้านิดหน่อย บริเวณนี้มีต้นไม้ยักษ์อยู่ 2 ชนิด คือ ต้นไทรยักษ์ และ ต้นมะค่ายักษ์ ดูจากขนาดของพี่เบิ้มทั้งสองท่านแล้ว ก็คงไม่ต้องพูดถึงอายุครับ เกินร้อยแน่นอน ต้นไม้สองต้นนี้ค้นพบโดยชาวเกาะกูดนี่แหละ และทุกคนพร้อมใจกันรักษาไว้ให้พวกเราดูครับ ขอบคุณพี่น้องชาวเกาะกูดทุกท่าน




 
ชุมชนชาวประมง บ้านอ่าวใหญ่ เกาะกูด
บ้านอ่าวใหญ่เป็นชุมชนหนึ่งบนเกาะกูด ชาวบ้านมีจำนวนไม่มากนัก แทบทุกคนเลี้ยงชีพด้วยการทำประมงบ้างก็ทำสวน ที่หมู่บ้านอ่าวใหญ่ไม่มีหาดทรายสวยงามเหมือนอย่างสถานที่แห่งอื่นๆ บนเกาะกูด นักท่องเที่ยวจึงรู้จักหมู่บ้านแห่งนี้ในเรื่องของการท่องเที่ยวชุมชน ลักษณะภูมิประเทศเป็นอ่าวขนาดใหญ่ซึ่งเป็นที่มาของชื่อบ้านอ่าวใหญ่ ในสมัยที่การประมงรุ่งเรืองมีเรือประมงเข้ามาจอดหลบลมมรสุมกันเป็นจำนวนมาก จากคำบอกเล่าของป้าวาสนา หรือที่เราเรียกกันง่ายๆ ว่าป้าหนา เล่าให้ฟังว่าสมัยนั้นเรือประมงเข้ามาจอดเต็มอ่าวจนสามารถเดินจากฝั่งหนึ่งของอ่าวไปยังอีกฝั่งหนึ่งได้เพราะเรือจอดติดกันจนเต็มอ่าว






 
ความสำคัญของอ่าวใหญ่ ขอกล่าวถึง เกาะกูด กันสักหน่อย เกาะกูดเป็นเกาะสุดท้ายของเส้นชายแดนของไทยด้านตะวันออกอยู่ในเส้นทางการค้ามีเรือสำเภาเดินเรือเข้ามาติดต่อค้าขายกันแต่โบราณ บริเวณนี้จึงเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์เช่นเป็นสถานที่ลี้ภัยของพระเจ้าเวียดนาม ยาลอง (องเชียงสือ) หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าเจ้าอนัมก๊กที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารสมัยรัชกาลที่ 1 จนกระทั่งกาปักปันเขตแดนเมื่อฝรั่งเศสยึดดินแดนปัจจันตคีรีเขตร์ (เกาะกง) ในสมัยรัชกาลที่ 5 ด้วยเหตุที่อ่าวใหญ่มีทำเลที่ดีสำหรับการจอดเทียบเรือน้อยใหญ่ น่าจะเป็นจุดสำคัญจุดหนึ่งสำหรับการเดินทางทางเรือในอดีต
 
ปัจจุบันการท่องเที่ยวเกาะกูด เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว บ้านอ่าวใหญ่ได้รับการสนับสนุนจากหลายภาคส่วน รวมถึงโรงแรม รีสอร์ทบนเกาะกูด ก็ช่วยกันแนะนำให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปเยี่ยมชม ทำให้บ้านอ่าวใหญ่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางไปเยี่ยมเยือนอย่างต่อเนื่อง ชาวบ้านอ่าวใหญ่มีความรักในธรรมชาติสูงมาก สังเกตได้จากน้ำทะเลใต้ถุนบ้านแทบจะไม่มีขยะให้เห็นเลย น้ำทะเลใสมากมีปลาขนาดเล็กเข้ามาอยู่อาศัยเรียกว่าเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์ทะเลขนาดเล็กได้เป็นอย่างดี มีสัตว์ทะเลหลายชนิดให้เราได้เห็นในพื้นที่ของอ่าวใหญ่ ทุกวันนี้จึงเป็นเหมือนอ่างปลาหรือตู้ปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้
 
 
ความเป็นมาของหมู่บ้านอ่าวใหญ่ที่มีมาช้านานในด้านของการเดินทางคมนาคมระหว่างหลายประเทศเช่น ญวน เขมร จีน จึงทำให้ชุมชนแห่งนี้กลายเป็นแหล่งสะสมภูมิปัญญาชาวบ้านและวัฒนธรรมต่างๆ เอาไว้มากมาย เมื่อยุคสมัยของการทำประมงเริ่มจะประสบปัญหาสัตว์น้ำลดจำนวนลงและหายากกว่าเมื่อก่อน ค่าน้ำมันที่สูงขึ้นทุกวัน ชาวบ้านอ่าวใหญ่จึงพร้อมใจกันเปิดหมู่บ้านในฐานะแหล่งท่องเที่ยว ในระบบนิเวศพิพิธภัณฑ์ ระบบธนาคารสีเขียวนี้จะช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศที่เสียไปจากการทำประมงจับสัตว์น้ำจนจำนวนลดหายไปอย่างรวดเร็ว โดยนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวในหมู่บ้านจะเป็นผู้ทำกิจกรรมปล่อยสัตว์น้ำ ร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งตราด ได้แก่ ปูไก่ ปลาเก๋าปะการังลายจุด ปลาย่ำสวาท ฯลฯ นอกจากนี้นิเวศพิพิธภัณฑ์ยังจะช่วยสืบสานภูมิปัญญาชาวบ้านสร้างความภาคภูมิใจให้กับลูกหลานคนรุ่นหลัง ด้วยการนำเอาวัฒนธรรมเหล่านั้นมาเป็นจุดขายของการท่องเที่ยวอีกด้วย







 
ปัจจุบัน ชุมชนบ้านอ่าวใหญ่ มีป้าวาสนาเป็นผู้ประสานงานหลักในเรื่องของการท่องเที่ยวชุมชน มีสินค้าท่องเที่ยวเสนอขาย 2 ประเภทหลัก คือ กิจกรรมคืนความสมดุลให้กับธรรมชาติ อาทิ การปล่อยปู ปลูกปะการัง และการเรียนรู้วิถีชีวิตชาวประมง อีกส่วนหนึ่งก็คือ การจำหน่ายอาหารเมนูพื้นถิ่นประเภท ซีฟู้ด เพราะชาวบ้านที่นี่มีวัตถุดิบสดๆ จากเรือ ทำให้หลายบ้านได้เปลี่ยนบ้านตัวเองเป็นร้านอาหารชุมชน สร้างเสน่ห์และสีสันให้กับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่า มาเกาะกูดแล้วอยากกินอาหารทะเลสดๆ ก็เข้าไปที่แหล่งกันเลย อิ่มจังและเป็นมิตรกับเป๋าตังค์ด้วย สอบถามเพิ่มเติมการท่องเที่ยวชุมชนบ้านอ่าวใหญ่ ป้าวาสนา 06-2895-6693
 
เกาะหมาก
เป็นเกาะขนาดใหญ่ อยู่ระหว่างเกาะช้างกับเกาะกูด ห่างจากฝั่งประมาณ 38 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 9,000 ไร่ มีรูปร่างคล้ายดาวสี่แฉก พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสวนมะพร้าว โดยรอบมีอ่าวและชายหาดที่สวยงาม น้ำใสสะอาด เช่น บริเวณอ่าวตานิด อ่าวไผ่ อ่าวโปร่ง อ่าวผาด อ่าวแดง อ่าวส่วนใหญ่ บริเวณชายฝั่งรอบเกาะและเกาะใกล้เคียงพบแนวปะการังที่สมบูรณ์และสวยงาม สถานที่พักบนเกาะมีมากกว่า 50 แห่ง ช่วงฤดูท่องเที่ยวเริ่มตั้งแต่ ตุลาคม - พฤษภาคม ชุมชนดั้งเดิมบนเกาะหมากส่วนใหญ่เป็นเขมรเชื้อชาติไทยที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานเมื่อครั้งเมืองประจันตคีรีเขตร หรือเกาะกงเป็นของฝรั่งเศสเมื่อปี พ.ศ. 2447 โดยมีหลวงพรหมภักดี ต้นตระกูลตะเวทิกุล เป็นผู้ควบคุมคนจีนบนเกาะกง คนบนเกาะส่วนใหญ่เป็นเครือญาติกัน มีอาชีพเกษตรกรรมทำสวนยางพาราและสวนมะพร้าว
 
ในอดีตเกาะหมากได้ชื่อว่าเป็นแหล่งปลูกมะพร้าวที่สำคัญของจังหวัดตราด เกาะหมาก นับเป็นเกาะใหญ่อีกเกาะหนึ่งในท้องทะเลตราดรองลงมาจากเกาะช้างและเกาะกูด สภาพธรรมชาติยังคงความสมบูรณ์บรรยากาศร่มรื่น เสน่ห์ของเกาะแห่งนี้คือ ชายหาดที่มีความสงบเป็นส่วนตัว และการเที่ยวชมวิถีชีวิตของผู้คนบนเกาะที่เรียบง่ายและเป็นมิตร ถนนรอบเกาะมีระยะทางประมาณ 27 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถเช่ารถจักรยานเพื่อขี่เที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวบนเกาะได้อย่างสนุกสนาน
 
ปัจจุบัน องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) เป็นหน่วยงานหลักที่ร่วมมือกับผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวรวมถึงชาวบ้านในพื้นที่เกาะหมาก จัดทำเรื่องการจัดการสิ่งแวดล้อมเพื่อให้การท่องเที่ยวของเกาะหมาก เกิดภาพลักษณ์ที่ชัดเจนว่า เกาะหมาก เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีการจัดการสิ่งแวดล้อมเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
 
เกาะกระดาด
เกาะกลางทะเลกว้างที่มีความแปลกเป็นพิเศษคือ มีสัณฐานแบนราบราวกับกระดาษ บนเกาะแห่งนี้มีต้นกระดาดอยู่เป็นจำนวนมาก จึงได้ชื่อว่า “เกาะกระดาด” ลักษณะโดยทั่วไปของเกาะคือ มีหาดทรายขาวสะอาดเป็นแนวยาวตลอดทั้งเกาะ มีต้นมะพร้าวอยู่เป็นจำนวนมาก และเป็นพื้นที่เลี้ยงกวางและหมูป่าแบบธรรมชาติ มีการจัดเส้นทางให้เที่ยวชมรอบเกาะภายในเวลา 1 ชั่วโมง มีสถานที่พัก 1 แห่ง คือ เกาะกระดาด รีสอร์ท
 
ปัจจุบัน เกาะกระดาดได้รับการคัดเลือกจาก ททท.ให้เป็น Unseen in Thailand เนื่องจากมีความพิเศษและแตกต่างไม่เหมือนใคร การเดินทางไปเกาะกระดาดยังไม่มีเรือโดยสารตรงจากฝั่ง นักท่องเที่ยวสามารถลงเรือโดยสารที่ท่าเรือกรมหลวงฯ เพื่อไปเกาะหมาก จากนั้น ให้ไปต่อเรือที่อ่าวตั๋ว (ชินนาม่อนอาร์ต รีสอร์ท) จะมีบริการเรือของเกาะกระดาดมารับ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวเกาะกระดาดเพื่อต้องการใกล้ชิดกับธรรมชาติด้วยกิจกรรมนั่งรถแทร๊คเตอร์เที่ยวรอบเกาะและชมฝูงกวางป่านับร้อยตัวในบรรยากาศซาฟารีกลางทะเล
 
เกาะขาม
เกาะขามเป็นเกาะเล็กๆ อยู่ทางทิศเหนือของเกาะหมาก มีธรรมชาติค่อนข้างสมบูรณ์ หาดทรายขาวน้ำทะเลสวยใส มีหมู่หินภูเขาไฟซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติตั้งอยู่เรียงรายกับแนวปะการังหลากชนิด ทางทิศตะวันตกเป็นแนวเขามีพรรณไม้จำนวนมาก ทั้งกล้วยไม้ป่า หวาย และสมุนไพรหลากชนิด บริเวณรอบเกาะขามมีหมู่ปะการังหลายชนิด ดอกไม้ทะเลสีสดใส ปลาสวยงาม และหอยมือเสือ ซึ่งทำให้นักดำน้ำได้เพลิดเพลินกับความงดงามของธรรมชาติใต้ทะเลอีกด้วย ในเวลาเที่ยงวัน นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปที่จุดชมวิวไทยดาโฮที่เกาะหมาก มองลงมาจากมุมสูงจะเห็นเกาะขามอย่างชัดเจน แสงแดดที่ส่องลงมาจะทำให้น้ำทะเลเป็นสีมรกต ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากเกาะหมากต้องนั่งเรือเข้ามาเที่ยวชมตลอดทั้งปี
 
หมู่เกาะรัง
หมู่เกาะรัง อยู่บริเวณทิศตะวันตกของเกาะหมากมีแนวปะการังน้ำตื้นที่สวยงามและมีชื่อเสียงระดับโลกโดยเฉพาะเกาะกระ, เกาะยักษ์เล็ก, เกาะยักษ์ใหญ่, เกาะนก, เกาะทองหลาง, เกาะเทียน เป็นต้น หมู่เกาะเล็กๆ ทางตะวันออกของเกาะรัง ได้รับการยกย่องจากหนังสือเกี่ยวกับการดำน้ำของอเมริกาว่ามีความงดงามติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก บนเกาะรังมีหน่วยพิทักษ์อุทยานนักท่องเที่ยวสามารถติดต่อกางเต็นท์พักแรมเพื่อซึมซับกับธรรมชาติอันบริสุทธิ์ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบได้ ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวดำน้ำในจังหวัดตราดส่วนใหญ่ ได้นำเสนอแหล่งดำน้ำของหมู่เกาะรังเป็นอันดับ 1 ในแพ็คเกจท่องเที่ยวดำน้ำ เนื่องจากมีความสวยงามของโลกใต้ทะเล มีฝูงปลาทะเลหลากชนิดและแนวปะการังสวยงามมากมาย หมู่เกาะรัง มีเกาะรังใหญ่เป็นเกาะขนาดใหญ่ที่สุด มีเนื้อที่ประมาณหนึ่งในสามของเกาะหมาก ในส่วนของด้านท้ายของเกาะรังเป็นเกาะเล็กๆ ชื่อว่า เกาะรังเล็ก และถัดไปทางเหนือเป็นเกาะมะปริง
 
ปัจจุบัน การเดินทางไปจังหวัดตราด สะดวกสบายมาก ถ้าเป็นรถยนต์ก็ใช้เส้นทางสายมอเตอร์เวย์ - บ้านบึง - แกลง - จันทบุรี - ตราด ขับสบาย ๆ 315 กิโลเมตร 4 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว ถ้าเป็นรถทัวร์ก็จากเอกมัยหรือหมอชิต 5 ชั่วโมงถึง บขส.ตราด ส่วนเครื่องบินก็มาได้วันละ 3 รอบ (ดูรอบเวลาเที่ยวบินได้ที่ bangkokair.com) หากจะวางแผนเดินทางเที่ยวทะเลตราดก็ต้องไปช่วง พฤศจิกายน - พฤษภาคม เท่านั้น แนะนำให้จองที่พักตั้งแต่ช่วงนี้แหละ เพราะตั้งแต่ตุลาคมเป็นต้นไป นักท่องเที่ยวจะเยอะมากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ การไปหาจองเอาข้างหน้าไม่เวิร์คแน่นอน ส่วนจะเลือกไปเกาะไหน แนะนำให้ใช้เกาะช้าง เกาะหมาก หรือเกาะกูดเป็นหลัก พักแรมอย่างน้อย 2 คืน แล้วจะต่อเรือไปแวะเที่ยวเกาะไหนก็ค่อยว่ากันอีกที แบบนี้ถึงจะคุ้มค่ากับการใช้วันหยุด เพื่อไปสัมผัสกับทรายขาวๆ น้ำใสๆ ฟ้าสีสดๆ กดชัตเตอร์รัวๆ แล้วเอาภาพมาอัพลงโซเชียลให้เต็มที่กันไปเลย

สอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวจังหวัดตราด ททท.สำนักงานตราด โทรศัพท์ 039-597-259 ถึง 60 ทุกวันในเวลาราชการ


การเดินทาง

รถยนต์
 : จากกรุงเทพฯ สามารถใช้เส้นทางได้ 3 สาย คือ
1. บางนา-ตราด (เส้นทางหลวงหมายเลข 3) ผ่านชลบุรี-ระยอง-จันทบุรี-ตราด ระยะทางประมาณ 385 กิโลเมตร
2. บางนา-ชลบุรี-แกลง-จันทบุรี-ตราด (เส้นทางหลวงหมายเลข 344) ระยะทางประมาณ 318 กิโลเมตร
3. ทางหลวงพิเศษ (motor way) เริ่ม กิโลเมตรที่ 0 ที่แยกถนนศรีนครินทร์ตัดถนนรามคำแหง และมาออกที่เส้นทางบ้านบึง-แกลง-จันทบุรี-ตราด

รถโดยสาร : มีรถโดยสารธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศของบริษัท ขนส่ง จำกัด และของเอกชน สายกรุงเทพฯ-ตราด ออกจากสถานีขนส่งสายตะวันออก หรือเอกมัย ถนนสุขุมวิท และสถานีขนส่งสายเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ หรือหมอชิต 2 ถนนกำแพงเพชร 2 ทุกวัน วันละหลายเที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดได้ที่บริษัท ขนส่ง จำกัด โทร.1490 หรือ จองตั๋วรถทัวร์

เครื่องบิน : สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เปิดบริการเที่ยวบินระหว่างกรุงเทพฯ-ตราด ทุกวัน วันละ 3 เที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง สอบถามข้อมูลการเดินทาง ตารางเวลาเที่ยวบิน และสำรองที่นั่งได้ที่โทร. 0 2270 6699 หรือสำนักงานตราด โทร. 0 3952 5299-300 สำนักงานสนามบินจังหวัดตราด โทร. 0 3952 5767-8 สำนักงานเกาะช้าง โทร. 0 3955 1654-5 เว็บไซต์ www.bangkokair.com หรือ จองตั๋วเครื่องบิน