รีวิว-ล่องเรือไหว้พระเก้าวัด-กับเรือด่วนเจ้าพระยา-อิ่มบุญ-อิ่มเอมใจ-เสริมสิริมงคลให้กับ
ล่องเรือไหว้พระเก้าวัด กับเรือด่วนเจ้าพระยา อิ่มบุญ-อิ่มเอมใจ เสริมสิริมงคลให้กับชีวิต
เช้าอาทิตย์ ตื่นมาพร้อมกับอากาศแสนสดชื่นแจ่มใส วันนี้มีคิวไปล่องเรือไหว้พระเก้าวัด เสริมสิริมงคล กับเรือด่วนเจ้าพระยา หลังจากตระเตรียมสัมภาระส่วนตัวเรียบร้อย ก็ออกเดินทางโดยใช้บริการของรถไฟฟ้า BTS ไปลงที่สถานีสะพานตากสิน เพื่อขึ้นเรือที่ท่าเรือสาทร โดยเรือจะจอดรอรับผู้โดยสาร 2 ท่า นั่นก็คือ ท่าเรือมหาราช (ออกเดินทางเวลา 8.30 น.) และที่ ท่าเรือสาทร (ออกเดินทางเวลา 9.00 น.) สะดวกที่ไหนสามารถไปขึ้นเรือได้ที่นั่น แต่แนะนำว่าควรจะเดินทางไปถึงที่ท่าเรือก่อนซัก 30 นาที เผื่อเหลือเผื่อขาดไว้ดีกว่าเพื่อเป็นการรับประกันว่าเราจะไม่ตกเรือ
ยังไม่ถึง 9 โมงเช้า เรือด่วนเจ้าพระยาก็มาจอดเทียบท่า จะมัวรอช้าอยู่ใยลงไปจับจองที่นั่งกันเลยดีกว่า พูดถึงเรือที่จะพาเราล่องแม่น้ำเจ้าพระยาวันนี้ เป็นเรือขนาด 40 ที่นั่ง สภาพใหม่เอี่ยม มีห่วงยาง และชูชีพ เตรียมไว้พร้อม ที่สำคัญก็คือในทริปนี้จะมีไกด์คอยพาเที่ยวและบรรยายถึงสถานที่ต่างๆ ที่เราจะได้ไปเยี่ยมเยือนกัน เรียกได้ว่างานนี้ เที่ยวสนุก อิ่มบุญ แถมรับประกันความปลอดภัยอีกด้วย
และแล้ว การเดินทางก็เริ่มต้นขึ้น บรรยากาศสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาสวยงามเหลือเกิน แม้แดดจะแรงไปซักหน่อย แต่ก็ต้องถือว่าวันนี้อากาศดี ท้องฟ้าเปิด ใครชอบถ่ายภาพล่ะก็ ได้รูปสวยกลับไปเป็นของฝากแน่ๆ ระหว่างกำลังเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์สองข้างถ่ายพร้อมๆ กับหม่ำอาหารว่างที่ทางเรือด่วนเจ้าพระยาจัดไว้ให้ คุณพี่ไกด์ของเราก็ประกาศผ่านไมค์ว่า ตอนนี้เราเดินทางมาถึงวัดแรกแล้วนั่นก็คือ วัดบุคคโล ซึ่งเราจะได้ขึ้นไปนมัสการ หลวงพ่อแพ โดยตามประวัตินั้น มีเรื่องเล่าขานกันว่า หลวงพ่อแพ ลอยวนอยู่ที่ท่าน้ำหน้าวัดอยู่นาน 2 วัน ชาวบ้านที่อยู่รอบๆ ก็เลยอัญเชิญขึ้นมาประดิษฐสถานที่ วัดบุคคโล นั่นเอง รวมถึงจะได้เดินขึ้นนมัสการ พระพุทธประทานพร ซึ่งประดิษฐสถานอยู่บนศาลาจัตุรมุขลอยฟ้า ซึ่งขอบอกว่าวิวด้านบนสวยมาก ซึ่งเราจะมองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาไกลสุดลูกหูลูกตาเลยทีเดียว
เสร็จจาก วัดบุคคโล เราก็นั่งเรือย้อนกลับมาโดยมี วัดยานนาวา เป็นที่หมายแห่งที่สอง โดยไฮไลท์ของ วัดยานนาวา ก็คือ เรือสำเภาจีน ที่สร้างขึ้นตั้งแต่รัชกาลที่ 3 โดยด้านหน้าของสำเภาจีนจะมีอนุสาวรีย์พระบรมรูปของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ประทับอยู่ด้วย นอกจากนี้ เรายังได้แวะกราบไหว้พระบรมสารีริกธาตุซึ่งอยู่ในอาคารมหาเจษฎาบดินทร์ และถ้าเดินย้อนกลับไปที่ประตูด้านหน้าของวัดก็จะมีเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่แกะสลักด้วยหยกขาวตั้งตระหง่านให้เราได้กราบไหว้ขอพรกันด้วย
จากนั้นเราก็ออกเดินทางกันต่อ จากท่าเรือวัดยานนาวามุ่งหน้าไปที่ท่าเรือสะพานพุทธ โดยมี วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เป็นที่หมายแห่งที่สาม ซึ่งเมื่อเรือเทียบท่าแล้วเราจะต้องเดินเท้าจากท่าเรือไปที่วัดราว 5 นาที เมื่อมาถึงที่ วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร สิ่งแรกที่เราเห็นเด่นเป็นสง่าอยู่ก็คือ พระบรมธาตุมหาเจดีย์องค์ใหญ่ ที่สร้างขึ้นตั้งแต่รัชกาลที่ 4 เช่นเดียวกับ พระวิหารหลวงพ่อพระพุทธนาค ซึ่งใครที่มาถึงที่วัดแห่งนี้จะต้องแวะสักการะ พระพุทธนาคน้อย ซึ่งประดิษฐสถานอยู่ในด้าน อีกอย่างหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ก็คือ เขามอ ซึ่งเป็นภูเขาจำลองก่อด้วยศิลาที่ตั้งอยู่กลางสระน้ำเพื่อใช้เป็นที่ประดิษฐสถานพระพุทธรูป โดยเราสามารถนั่งหลบแดดเลี้ยงปลา เลี้ยงเต่า บริเวณ เขามอ นี้ได้ด้วย
วัดที่สี่ที่เราจะเดินทางไปกันต่อคือ วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ซึ่งแน่นอนว่ามาถึงวัดนี้เราจะต้อง นมัสการสมเด็จพระพุทธรัตนไตรนายก (หลวงพ่อซำปอกง) นอกจากนี้ บริเวณหน้าพระวิหารหลวงยังมีหอระฆังสำหรับไว้ระฆังยักษ์มีขนาดใหญ่ที่สุด ซึ่งคนที่มาที่นี่จะต้องแวะมาต่อคิวตีระฆังใบนี้ ไม่เช่นนั้นจะถือว่ามาไม่ถึง วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร
วัดต่อไปจะเป็นวัดที่ห้า ซึ่งนั่งเรือต่อไปไม่ไกลจาก วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร นั่นก็คือ วัดอรุณราชวราราม ทีแรกตั้งใจว่ามาถึงที่นี่ นอกจากจะนมัสการพระประธานวัดอรุณฯ แล้ว จะขอเดินขึ้นไปถึงยอดพระปรางค์วัดอรุณฯ ซะหน่อย แต่ด้วยความที่มีเวลาจำกัดเลยเปลี่ยนใจขอแค่เก็บภาพงามๆ ของพระปรางค์ก็พอ จากนั้นเดินเข้าไปพระอุโบสถสักการะพระแจ้ง และพระธาตุ พร้อมรับน้ำมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล และก่อนกลับแวะชักภาพคู่กับยักษ์วัดแจ้ง เป็นอันว่าภารกิจเสร็จลุล่วงไปอีกหนึ่งวัด
หลังจากไหว้พระไปแล้วห้าวัดในครึ่งวันเช้า ก็ถึงเวลาที่เราจะได้พักทานอาหารมื้อเที่ยงกัน โดยที่เรือจะแวะจอดที่ท่ามหาราช ให้เราเลือกกิน เลือกช้อป อาหารและสินค้าต่างๆ มากมายบริเวณท่าพระจันทร์ ได้น้ำ ได้ข้าว มาเติมพลังกันแบบนี้ มีแรงเหลือเฟื้อที่จะไปลุยต่อกับอีกสี่วัดที่เหลือในช่วงบ่ายแล้วล่ะ!
ครบ 1 ชั่วโมงสำหรับการพักทานมื้อเที่ยง เราก็กลับมาขึ้นเรือที่จอดรออยู่ที่ท่ามหาราชตามที่ได้นัดหมายกันเอาไว้ จุดหมายถัดไปของเราคือ วัดระฆังโฆสิตาราม ซึ่งเป็นวัดที่หกแล้วสำหรับวันนี้ พอเรือเทียบท่าปุ๊บ เราก็มุ่งหน้าไปเพื่อมนัสการ พระประธานยิ้มรับฟ้า ทันที เสร็จจากนั้น ก็เดินย้อนกลับมาบริเวณท่าวัดอีกครั้ง เพราะตั้งใจว่าจะมาให้อาหารปลา ให้อาหารนก ปล่อยปลา ปล่อยเต่า ที่นี่ ระหว่างที่กำลังให้อาหารปลาอยู่นั้น เหลือบไปเห็นว่าที่นี้มีการทำสังฆทานปลากันด้วย สอบถามพี่ไกด์ที่นำเที่ยววันนี้ ได้คำตอบว่าการทำสังฆทานปลาถือเป็นอีกหนึ่งการทำบุญซึ่งคนที่เดินทางมา วัดระฆังโฆสิตาราม นิยมกันมาก
เสร็จจาก วัดระฆังโฆสิตาราม เราก็ออกเดินทางกันต่อ โดยเรือได้พาเราเลี้ยวเข้าคลองบางกอกน้อย ผ่านอู่เรือพระราชพิธี ก่อนที่เราจะถึงวัดแห่งที่เจ็ดนั่นคือ วัดอมรินทรารามวรวิหาร เพื่อนมัสการหลวงพ่อวัดโบสถ์น้อย
ที่หมายถัดไปของเราคือ วัดราชาธิวาสราชวรวิหาร ซึ่งเป็นวัดที่แปดแล้วสำหรับวันนี้ ความจริงที่วัดนี้มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ๆ เป็นที่เคารพของพุทธศาสนิกชนซึ่งประดิษฐานอยู่ในอาคารสถานที่ต่างๆ ภายในวัด 12 องค์ด้วยกัน แต่ด้วยเวลาที่มีไม่มากนัก เท่าให้เรามุ่งหน้าเข้าไปในอุโบสถ เพื่อกราบนมัสการ พระพุทธไสยาสน์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปองค์สำคัญของวัดนี้ พร้อมรับศีลรับพร ประพรมน้ำมนต์ (ซึ่งเป็นน้ำมนต์ที่เก็บรักษาไว้ในวัง) เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
และแล้วก็มาถึงวัดที่เก้า ซึ่งเป็นวัดสุดท้าย นั่นก็คือ วัดเทวราชกุญชร เพื่อนมัสการพระพุทธเทวราชปฏิมากร เสร็จแล้วแวะเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์สักทอง ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ของมูลนิธิ ศาสตราจารย์ ดร.อุกฤษ – ท่านผู้หญิง มณฑินี มงคลนาวิน โดยด้านในเป็นไม้สักทั้งหลังซึ่งถูกแบ่งออกเป็นหลายๆ ห้อง ห้องที่น่าสนใจก็มีอย่าง ห้องหุ่นขี้ผึ้งไฟเบอร์กลาสสมเด็จพระสังฆราช ห้องจำลองมณฑปจำลองประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ/พระพุทธสิริกิตพิพัฒน์จำลอง และรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งไปเบอร์กลาสพระอริยสงฆ์ เป็นต้น
เป็นอันเสร็จสิ้น ครบถ้วนกระบวนความทั้ง 9 วัด เรียกได้ว่างานนี้ อิ่มบุญ อิ่มเอมใจ กันไปทั่วหน้า แถมขากลับแดดร่มลมตก ได้นั่งเรือดื่มด่ำชมวิวทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นของแถมอีกด้วย ถึงแม้อากาศจะร้อน แดดจะแรงไปสักหน่อย แต่ก็ถือว่าคุ้มกับบุญกุศลที่ได้รับกันแบบเต็มเปี่ยม กับทริปนี้ที่ไปกันได้ทุกเพศทุกวัย จะมาเป็นหมู่คณะ มากับคุณพ่อ-คุณแม่ ญาติสนิท-มิตรสหาย หรือจะมากับคนรัก ก็มาอิ่มบุญ ล่องเรือไหว้พระเก้าวัด เสริมสิริมงคล กับเรือด่วนเจ้าพระยา กันได้
อ้อ...ส่วนเรื่องราคาบอกได้เลยว่าไม่แพง ผู้ใหญ่ 350 บาท เด็ก 250 บาท ได้ล่องเรือไหว้พระอิ่มบุญกันทั่วหน้าตั้งแต่เช้ายันเย็น สนใจไป ล่องเรือไหว้พระเก้าวัด เสริมสิริมงคล กับเรือด่วนเจ้าพระยา ลองเข้าไปดูรายละเอียดกันก่อนก็ได้
คลิกดูรายละเอียด ล่องเรือไหว้พระเก้าวัด เสริมสิริมงคล กับเรือด่วนเจ้าพระยา
เรื่อง/ภาพ โดย...ไอ้แผน เด็กขายตั๋ว